เริ่มธุรกิจส่วนตัว ควบคู่กับงานประจำ กำลังจะกลายเป็นเรื่องที่คนทำงานให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สาเหตุหลักๆ ก็ส่วนนึงมาจากรายได้จากงานประจำไม่เพียงพอ หรือ อีกส่วนนึงมาจากการต้องการออกมาเป็นเจ้าของกิจการ
ในบทความนี้จะเสนอคำแนะนำสำหรับพนักงานประจำที่ต้องการ เริ่มธุรกิจส่วนตัว ควบคู่กับงานประจำไปด้วย (Side Hustle) โดยเน้นการเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กที่สามารถจัดการได้ง่ายและไม่ต้องเสี่ยงมาก แนะนำให้ทดลองทำธุรกิจคู่กับงานประจำ การหารายได้เสริม และการเตรียมเงินสำรองเพื่อรองรับความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำในการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งตัวอย่างจริงและเคล็ดลับเพิ่มเติม เช่น การศึกษาและพัฒนา การสร้างเครือข่าย และการรักษาสมดุลชีวิตและงาน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและบรรลุเป้าหมายในการเริ่มธุรกิจส่วนตัวได้อย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จได้
คำแนะนำสำหรับพนักงานประจำที่อยากเริ่มธุรกิจส่วนตัว
คุณกำลังทำงานประจำ แต่มีฝันที่จะเริ่มทำธุรกิจส่วนตัวหรือไม่? ความคิดนี้บางครั้งก็อาจจะดูน่ากลัวสำหรับบางคนและเช่นกันอาจจะรู้สึกเป็นเรื่องท้าทายสำหรับอีกหลายคน ถ้าอยากลองเริ่มจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วง เรามีคำแนะนำที่เข้าใจในแบบง่ายๆ เพื่อช่วยให้คุณก้าวผ่านเรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภาพและด้วยความมั่นใจ
1. ลองทำธุรกิจคู่กับงานประจำ
การเริ่มธุรกิจส่วนตัว เราไม่จำเป็นต้องทิ้งงานประจำทันที การลองทำธุรกิจเล็กๆ ควบคู่กับงานประจำ (Side Hustle) ช่วยให้คุณได้ทดลองไอเดียและตรวจสอบตลาดโดยไม่ต้องเสี่ยงจนเกินไป คุณจะได้เรียนรู้และปรับปรุงแผนธุรกิจไปพร้อมๆ กับการทำงานประจำได้
ตัวอย่าง: คุณอาจเริ่มขายขนมโฮมเมดออนไลน์ในช่วงเย็นหลังเลิกงาน ทำให้คุณสามารถทดสอบตลาดและพัฒนาสูตรขนม ของคุณก่อนที่จะเปิดร้านขนมอย่างเต็มตัว
2. เริ่มธุรกิจในขนาดเล็กและพร้อมที่จะล้มเหลวได้
คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นธุรกิจในขนาดใหญ่ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ที่คุณสามารถจัดการได้ และไม่ต้องกลัวความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวเป็นบทเรียนที่ดีและช่วยให้คุณเติบโต การเริ่มในขนาดเล็กยังช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนทิศทางธุรกิจได้ง่ายอีกด้วย
ตัวอย่าง: แทนที่จะเปิดร้านกาแฟขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ คุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการขายกาแฟจากรถเข็นเล็กๆ หรือเป็นบูธเล็กๆ ในตลาดนัด หรือ ทำมาขายในที่ทำงาน เพื่อทดสอบความต้องการของลูกค้าและปรับปรุงเมนูและบริการของคุณก่อนที่จะลงทุนขยายกิจการในภายหลังก็ได้
3. หารายได้จากงานเสริม
การมีรายได้เสริมจากการทำงานประจำจะช่วยให้คุณมีทุนในการเริ่มต้นธุรกิจ การทำงานเสริมยังช่วยให้คุณได้พัฒนาทักษะใหม่ๆ และสร้างเครือข่ายที่มีค่าหรือสร้างโอกาสในอนาคตได้
ตัวอย่าง: หากคุณทำงานเป็นนักบัญชีในเวลากลางวัน คุณอาจรับงานเป็นที่ปรึกษาการเงินหรือทำบัญชีให้กับธุรกิจขนาดเล็กในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างเครือข่ายลูกค้าได้เช่นกัน
4. เตรียมเงินสำรอง
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการมีเงินสำรองทั้งสำหรับตัวคุณเองและสำหรับการทำธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ การทำธุรกิจมันมีความเสี่ยง ดังนั้นคุณควรมีเงินสำรองสำหรับค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายในธุรกิจเป็นเวลาอย่างน้อย 4-6 เดือน ถึง 1 ปี หากเป็นไปได้
ตัวอย่าง: หากคุณต้องการเปิดร้านเสื้อผ้า คุณควรคำนวณค่าเช่าร้าน ค่าซื้อเสื้อผ้า และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้วเตรียมเงินสำรองไว้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในกรณีที่ยอดขายไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
5. บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อคุณต้องทำงานสองอย่าง การจัดตารางเวลาและการกำหนดลำดับความสำคัญจะช่วยให้คุณสามารถทำงานประจำและธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการทำงานล่วงเวลาเกินไปเพื่อรักษาสมดุลชีวิตและสุขภาพ นอกจากนี้การบริหารเวลาที่ดี ยังต้องรวมไปถึงการบริหารทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย
ตัวอย่าง: คุณอาจกำหนดเวลาในการทำงานประจำให้เสร็จสิ้นในเวลา 18.00 น. จากนั้นใช้เวลา 19.00 น. ถึง 21.00 น. ในการทำงานธุรกิจส่วนตัว และแบ่งเวลาในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อพักผ่อนและใช้เวลากับครอบครัวด้วย
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ศึกษาและพัฒนา: เรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จในสายงานที่คุณสนใจ หรือ อ่านหนังสือ ฟังพอดแคสต์ หรือเข้าร่วมเวิร์คช็อปเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ที่คุณจะนำไปใช้ในการทำธุรกิจเสริม หรือ เพื่ออนาคต แนะนำให้ลองอ่านหนังสือ “The Lean Startup” โดย Eric Ries เพื่อเรียนรู้วิธีการสร้างธุรกิจในแบบประหยัด งบน้อย ให้มีประสิทธิภาพ
- สร้างเครือข่าย: การมีเพื่อนร่วมงานหรือที่ปรึกษาที่สามารถให้คำแนะนำและสนับสนุนจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเริ่มต้นธุรกิจ เช่น เข้าร่วมกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่หรือกลุ่มออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook หรือ LinkedIn Groups เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสัมพันธ์เป็นต้น
- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: กำหนดเป้าหมายทั้งระยะสั้นและระยะยาวสำหรับธุรกิจของคุณ และทำตามแผนที่วางไว้ เช่น ตั้งเป้าหมายในการขายสินค้าให้ได้ 100 ชิ้นในเดือนแรก และเพิ่มยอดขายเป็น 500 ชิ้นในหกเดือน โดยมีแผนการตลาดที่ชัดเจน เป็นต้น (ใช้หลักการ SMART Goals, SMART Action plans)
- การสนับสนุนจากชุมชน: เข้าร่วมกลุ่มหรือชุมชนออนไลน์ที่สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์และขอคำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจได้เช่นกัน ซึ่งยุคนี้สามารถหาข้อมูลได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจประเภทใดก็ตาม มีให้อ่าน มีให้ศึกษาเยอะมากมาย เช่น กลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ เช่น กลุ่มสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือ อื่นๆ เป็นต้น
- เคล็ดลับการสร้างความสมดุลชีวิตและงาน: จัดการเวลาให้ดีสำหรับครอบครัวและเวลาส่วนตัวเพื่อป้องกันความเครียดและการ Burnout และอย่าลืมดูแลสุขภาพจิตและร่างกาย เช่น ใช้แอพพลิเคชั่นจัดการเวลา เช่น Trello หรือ Asana เพื่อวางแผนการทำงานและเวลาพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ
บทสรุป
การเริ่มธุรกิจส่วนตัวควบคู่กับงานประจำอาจดูเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบและการบริหารจัดการที่ดี คุณสามารถทำให้ความฝันนี้เป็นจริงได้ บทความนี้เสนอคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการเริ่มต้นธุรกิจ โดยเน้นที่การเริ่มในขนาดเล็กเพื่อเรียนรู้และปรับปรุง การหารายได้เสริมเพื่อเพิ่มทุน และการเตรียมเงินสำรองเพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆ การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการงานประจำและธุรกิจส่วนตัวได้อย่างสมดุล
ด้วยตัวอย่างจริงและเคล็ดลับเพิ่มเติม เช่น การศึกษาและพัฒนาทักษะ การสร้างเครือข่ายที่มีประโยชน์ และการรักษาสมดุลชีวิตและงาน คุณจะได้รับแรงบันดาลใจและความมั่นใจในการก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ
อย่าลืมว่าความสำเร็จไม่ได้มาเพียงเพราะความโชคดี แต่มาจากความมุ่งมั่นและการทำงานอย่างหนัก หากคุณมีความฝันในการทำธุรกิจส่วนตัว คำแนะนำเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเดินทางสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นใจ เริ่มต้นลงมือทำวันนี้ และเฝ้าดูฝันของคุณกลายเป็นความจริง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเดินตามฝันนี้ครับ
บทความแนะนำ
The CEO’s Guide to Retirement – คำแนะนำและคู่มือเกษียณของ CEO


